บิวเวอร์เรีย - An Overview

นี่คือเพลี้ยหอยเกราะอ่อนอีกชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย ลำตัวเป็นทรงกลมเหมือนโล่สีน้ำตาลแดง เมื่อโตเต็มวัยแล้วจะมีเพียงแค่ตัวผู้เท่านั้นที่มีปีก เป็นกลุ่มเพลี้ยที่เน้นเข้าทำลายพืชตระกูลส้มโดยเฉพาะ สายพันธุ์พืชที่พบปัญหาได้บ่อยคือส้มโอ ส้มเขียวหวาน ส้มสายน้ำผึ้ง และมะนาว

ในทางกลับกัน การระบาดของศัตรูพืชไม่ว่าจะเป็นโรค, แมลง หรือวัชพืชนั้นแสดงให้เห็นถึงความไม่สมดุลของระบบนิเวศฟาร์ม เกษตรกรอาจจะจำเป็นต้องดำเนินทั้งมาตรการระยะสั้นในการจัดการศัตรูพืชเฉพาะหน้า และมาตรการระยะยาวในการฟื้นฟูความสมดุลของระบบนิเวศฟาร์ม แต่เกษตรกรส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจเฉพาะแต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยวิธีการหาสมุนไพรหรือสารที่จะมาทดแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ที่จริงแล้วเกษตรอินทรีย์ไม่สนับสนุนการใช้สารสมุนไพรเป็นหลักในการจัดการศัตรูพืช เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และยังปฏิเสธการใช้สมุนไพรบางประเภทที่มีผลในการทำลายสิ่งมีชีวิตไม่เลือกชนิด เช่น ยาสูบ เพราะมีผลต่อพลวัตของประชากรศัตรูพืชและศัตรูธรรมชาติ (หรือแม้แต่จุลินทรีย์ที่อยู่ใต้ดิน) ทำให้กลไกธรรมชาติหยุดชะงักหรือเสียสมดุลได้เช่นเดียวกันกับการใช้สารเคมีสังเคราะห์ในการกำจัดศัตรูพืช

กรณีที่เพลี้ยระบาดรุนแรงก็จำเป็นต้องใช้สารเคมีฉีดพ่นเพื่อกำจัดเพลี้ยเหล่านั้น ซึ่งสูตรสารเคมีที่ใช้มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย เช่น คาร์บาริล บูโพรเฟซิน มาลาไทออน ไดอะซินอน เป็นต้น โดยอัตราส่วนในการใช้งานก็ให้ปรับตามคำแนะนำของผู้ผลิตที่เหมาะสมกับเพลี้ยแต่ละชนิด

พืชอาหาร : ส้ม มะละกอ ขนุน มะนาว มะกรูด แตงโม และถั่วชนิดต่างๆ

อย่างไรก็ตามหากวันดีคืนดีครอบครัวเพลี้ยแป้งพากันมาเยือนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ทั้งใบทั้งต้นกลายเป็นสีขาวพราวไปหมด  คงต้องงัดเอาสารเคมีมาปราบบ้างละ เพื่อไม่ให้ต้นไม้เหี่ยวเฉาไปกว่านี้  เราอาจเริ่มจากมาตรการเบา ๆ ด้วยการใช้สารเคมีอ่อน ๆ ที่หาได้ใกล้มือดังนี้

กลุ่มกีฏและสัตววิทยา กลุ่มงานอนุกรมวิธานแมลง

รูปแบบการสร้างความเสียหายของเพลี้ยหอยทุกชนิดจะคล้ายคลึงกับเพลี้ยอ่อน คือเจาะเซลล์พืชเพื่อดูดกินน้ำเลี้ยงจนต้นพืชนั้นเสื่อมโทรม ในระยะแรกอาจจะเป็นการเสียรูปทรงของใบอ่อน สีใบเหลืองซีดและเหี่ยวย่น บางส่วนอาจหลุดจากขั้วไป นอกจากนี้เพลี้ยหอยบางชนิดยังสามารถปล่อยของเหลวที่ทำให้เกิดเชื้อราเกาะติดที่ผิวนอกของต้นพืชได้ด้วย

พริกสดมีสารรบกวนระบบการดูดซึมอาหารของเพลี้ยแป้ง

            นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เนื่องจากในช่วงนี้สภาพอากาศค่อนข้างร้อนชื้น ทำให้เป็นปัจจัยที่เหมาะสำหรับการระบาดของแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะ เพลี้ยแป้ง ซึ่งเป็นศัตรูพืชที่มีขนาดเล็ก สีขาว ชอบเกาะรวมกันเป็นกลุ่ม ดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบ ยอดอ่อน ช่อดอก และผล เมื่อเกษตรกรสำรวจพบเพลี้ยแป้งเข้าทำลาย ขอให้เกษตรกรตัดกิ่งหรือส่วนที่เพลี้ยแป้งทำลาย และนำไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก กรณีที่พบการระบาดรุนแรง จะทำให้บริเวณที่ถูกทำลายเหี่ยวแห้ง รวมทั้งเพลี้ยยังถ่ายมูลซึ่งเป็นน้ำหวานออกมา กลายเป็นแหล่งเพาะราดำ ทำให้ผลผลิตเสียคุณภาพ ผิวเปลือกของผลไม้จะเป็นจุดด่างดำ ทำให้ดูไม่น่ารับประทานและผลผลิตราคาตกต่ำ เพื่อให้ผลผลิตมีความปลอดภัย และลดการใช้สารเคมีในสวนไม้ผล กรมส่งเสริมการเกษตรมีข้อแนะนำการควบคุมการแพร่ระบาดของเพลี้ยแป้ง ดังนี้

อาการที่พบ : ผิวของผลไม้เป็นรอยด่าง ด้านในของผลมีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ และถ้าโดนดูดกินมากผลก็จะร่วงหล่นได้

พืชอาหาร : พริก มันฝรั่ง แตงกวา เมลอน มะนาว กล้วยไม้ ผักสลัด มะม่วง เป็นต้น

เพลี้ยแป้ง สังเกตได้ง่าย ด้วยเครื่องแต่งตัวที่ขาวราวหิมะ พวกมันดูจะมีนิสัยรักพวกพ้อง เพราะ พากันมาเป็นกลุ่มราวกับทัวร์ลง แต่ก็ออกจะขี้เกียจสักหน่อย ชอบเกาะอยู่นิ่ง ๆ ตามส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ ตั้งแต่ใบ กิ่งก้าน กำจัดเพลี้ย ลำต้น ไปจนถึงดอก เจ้าพวกนี้เห็นต้นไม้เป็นขวดน้ำหวาน จึงพากันมาดูดกินน้ำเลี้ยงโดยเฉพาะส่วนเจริญใหม่ เช่น ยอดอ่อน ใบอ่อน หรืออยู่ใต้ใบพืช จนต้นไม้ขาดอาหาร ทรุดโทรมลง และทำให้การเจริญเติบโตของต้นต้องหยุดชะงักลงไป

ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)

ที่สำคัญการฉีดพ่น ต้องทำอย่างทั่วถึง เพราะจะมีเพลี้ยแป้งที่หลบอยู่ใต้ใบ หรือเกาะซ้อนกันแน่น รอดตาย และสามารถขยายพันธุ์ต่อไปได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *